รถไฟเหล็กสีดำจอดเทียบชานชาลาแล้วหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว ไร้ชีวิตราวกับจักรเย็บผ้าขึ้นสนิม ขัดกันกับผู้คนมากมายที่เดินกันขวักไขว่ ต่างร้องตะโกน ส่งสัญญาณมือ วิ่ง ยกสิ่งของ ดูดน้ำ หัวเราะ ร้องไห้ โบกมือลา ยกมือไหว้ สวัสดี
ดวงอาทิตย์เบื้องบนสาดแดดจ้าลงมาอย่างไม่กลัวเปลือง ในมุมร่มมีผู้คนยืนเบียดเสียดกันอย่างหนาแน่น เมื่อถอยหลังออกมา แล้วขึ้นไปมองจากบนฟ้า ผู้คนทุกคนสูงเท่ากัน มีทรงผมเหมือนกัน ดูไม่ต่างกันเท่าไรนัก แต่เมื่อเข้าไปมองใกล้ๆ ใกล้จนชิดติดใบหน้า รูขุมขนดูเหมือนกับหลุมดำขนาดใหญ่ ที่ไม่มีใครทราบถึงความลึกและระยะทาง
มีแต่ความมืดมิด ดำสนิทจนไม่รู้ว่ากำลังเข้าหรือออก ขึ้นหรือลง เคลื่อนที่หรือว่าหยุดนิ่ง เพราะมองไม่เห็น จึงไม่มีสิ่งใดให้เปรียบเทียบ จึงไม่มีความเหมือน ความต่าง เพราะไม่มีความใดๆ จึงก่อเกิดให้ไม่ได้ความ ไม่ได้เนื้อหาสาระ เป็นผลพวงให้ไม่มีจุดประสงค์ ไม่มีเป้าหมาย ที่คอยให้ท้ายให้มีตัวตน
รถไฟเคลื่อนขบวน เอื่อยชะโงกหัวออกมานอกหน้าต่าง มือซ้ายจับหมวกไว้ไม่ให้ปลิว มือขวาชี้ไปที่ควัน
รถไฟเคลื่อนขบวน เอื่อยชะโงกหัวออกมานอกหน้าต่าง มือซ้ายจับหมวกไว้ไม่ให้ปลิว มือขวาชี้ไปที่ควัน
No comments:
Post a Comment