สาม



ไม่ว่าใครก็จำเป็นต้องมีที่หลบภัย ที่ๆเขาสามารถไปหยุดพัก เลิกคิดถึงสิ่งต่างๆ แล้วปล่อยใจไปตามความรู้สึก ที่ๆความร้อนทำให้เขาอบอุ่นและความหนาวทำให้เขาเย็นใจ ที่ๆฝนตกลงมาเป็นเพื่อน และเวลาไม่ได้เดินนำหน้าแต่เดินตามมาอย่างช้าๆ สำหรับอ้าย ไม่มีที่ไหนเหมือนกับทะเล เขาสามารถนั้งมองคลื่นซัดชายฝั่งไปมาได้ทั้งวันโดยที่เขาไม่จำเป็นต้องกินอะไรเลย(นอกจากกาแฟเย็นหรือบางครั้งกล้วย) นอกเหนือจากเรื่องความหิว ส่วนใหญ่เขาไม่มีสิ่งใดให้กังวล เขาแข็งแรงพอที่จะทนแดดทนฝน และที่ใดที่เขาจำเป็นต้องนอน เขาทำให้มันเป็นเหมือนบ้านได้ทุกที่ เงินบาทสุดท้ายเขาเลยใช้มันไปกับการดัดแปลงรถสามล้อเพื่อทำภารกิจใหญ่ เขาใช้เวลาสองปีที่ผ่านมาปั่นสามล้อตามหาเอื่อย ซึ่งมันก็ฟังดูเหมือนเป็นภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ แต่แน่นอนว่าสำหรับชายคนนี้เขาไม่เคยทำอะไรโดยไม่มีแผน
หลังจากวันที่เอื่อยไม่กลับมา อ้ายใช้เวลาสองอาทิตย์เดินตามหาในบริเวณใกล้ๆแล้วขยายรัศมีออกจนครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯในตัวเมือง เริ่มแรกเขาต้องมีภาพถ่าย แต่แน่นอนว่าเขาไม่เคยถ่ายรูปเลยตลอดเวลา15ปีที่เขาออกมาเป็นคนจรจัด วิธีเดียวที่เขาพอทำได้คือวาดหน้าของเอื่อยแบบง่ายๆลงบนกระดาษA4หรือเศษกระดาษที่เขาพอหาได้ แล้วเอาไปติดไว้ตามเสาไฟหรือตู้โทรศัพท์ ต่อมา เขาไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคนเดียวที่เขามี ตาดี คนเก็บเศษเหล็กที่มักจะมีของเหลือใช้ดีๆมาให้เขา เขาไปขอร้องให้ตาดีหาวัสดุที่เขาต้องการมาให้ จำพวกแม่เหล็ก ขดลวดทองแดง หลอดไฟ สายไฟ และอื่นๆ
อย่างที่สองเขาต้องมีแผนที่ อ้ายเข้าไปแถวสยามเพื่อไปเอาแผนที่กรุงเทพฯแจกฟรีมาติดตัวไว้ ในระหว่างทาง อ้ายแวะเข้าร้านอาหารทุกร้านที่เขาเจอเพื่อขอลังกระดาษเหลือใช้ที่กำลังจะถูกเอาไปทิ้ง เขาค่อยๆทำทุกอย่างทีละนิดๆ สุดท้าย เขาขายของทุกอย่างที่เขาไม่ต้องการเพื่อแลกกับรถสามล้อมาหนึ่งคัน ทันทีที่ได้มา เขาเริ่มต้นทำรถบ้าน
  อ้ายบรรจงตัดกระดาษลังโดยใช้คัดเตอร์ตัดโดยออกแบบให้มันต่อเข้ากันได้แบบต่อลิ่ม เพื่อความทนทาน เขายึดกาวไว้ตรงข้อต่อทุกอันและพ่นเสปรย์กันน้ำเคลือบไว้ที่ผิวด้านนอก อ้ายทำตัวที่พักต่อเสริมด้านหลังของรถสามล้อให้เหมือนกับรถพ่วง เขาเชื่อมเหล็กเสริมความแข็งแรงที่ตัวฐาน แล้วยึดตัวบ้านเข้ากับรถโดยใช้วิธีแบบเดียวกัน เขาเจาะรูลังกระดาษที่เป็นฐานให้มีขนาดพอดีกับเหล็กที่ทำเอาไว้สี่ด้านเพื่อเป็นเสา เขาใช้กระดาษลังชนิดหนาหลายๆแผ่นซ้อนทับกันให้เกิดความแข็งแรงของฐาน แล้วเอาทำตัวโครงสร้างให้สูงขึ้นขนาดพอดีกับส่วนสูงของเขา หน้าต่างที่เป็นที่ระบายอากาศถูกเจาะเอาไว้ในกำแพงทั้งสองด้านและบนหลังคาเพื่อทำให้เกิดความโปร่งใส แต่พวกมันถูกปิดทับเอาไว้อีกชั้นด้วยผ้าที่เขาตัดออกมาจากเต็นท์ ที่สามารถพับเก็บได้ในตอนที่ต้องการลม และพับลงมาปิดได้ในตอนที่ไม่ต้องการฝน
ที่ภายในตัวรถมีการปูรองบนกระดาษลังอีกชั้นด้วยถุงนอนที่เขาใช้นอนเป็นประจำ ด้านข้างมีโต๊ะวางของที่สามารถพับเก็บได้ทำขึ้นจากลังกระดาษเหลือใช้ กำแพงด้านในมีการติดที่เกี่ยวของเอาไว้ใช้เกี่ยวสิ่งของต่างๆ และด้านข้างหน้าต่างห้อยเอาไว้ด้วยโหลโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ที่เขาทำขึ้นเอง ตอนกลางวันเขาจะห้อยมันไว้เพื่อสะสมแสงแดด แล้วค่อยเปิดใช้ตอนกลางคืนที่เขาต้องอยู่โดยลำพัง แต่จริงๆอ้ายไม่เคยอยู่โดยลำพังได้นาน ทุกที่ๆเขาเดินทางไป เขาจะเป็นที่สนใจของผู้คนที่ผ่านไปมา บ้างแวะเข้ามาคุยด้วย บ้างหยุดมองดูอยู่ไกลๆ แต่เขาไม่เคยสนใจคนเหล่ามาก ในหัวของเขามีแต่ความคิดที่จะตามหาเอื่อยให้เจอโดยเร็ว 

" เอื่อย เอ็งรู้ไหมว่าทำไมทะเลถึงมีสีฟ้า " อ้ายหันไปพูดกับความว่างเปล่าที่อยู่ด้านข้าง มีแต่เสียงของคลื่นซัดตอบเขา
" ไม่ใช่ ไม่ใช่ " อ้ายส่ายหน้าแบบผิดหวัง " เพราะสีฟ้าคือสีที่ฉันชอบ นี่ไง เสื้อกันฝนฉันยังมีสีฟ้า " เขาหันไปโชว์เสื้อกันฝนให้ใครก็ไม่รู้ดู ไม่มีใครดูเลย ซักพักอ้ายลุกขึ้นยืนแล้วขึ้นรถปั่นออกไป พอตกเย็น อ้ายแวะไปหาตาดี
ตาดีเดินออกมาจากบ้านสังกะสีด้วยท่าทางอ่อนแรง เขาเดินมานั้งลงบนเศษก้อนอิฐข้างทางแล้วเอาบุหรี่ขึ้นมาจุด ซักพักอ้ายปีนลงมาจากเบาะนั้งแล้วมานั้งลงข้างๆ เขาเอาวิทยุเครื่องสีดำออกมาจากกระเป๋าสะพาย บรรจงดึงเสาอากาศขึ้นจนสุด หมุนคลื่นไปมาอย่างตั้งใจ ทันทีที่เสียงเพลงดังออกมา เขาวางมันลงข้างๆตัวเขา เสียงเปียโนดังเบาๆออกมาจากลำโพง อ้ายพยายามฟังแต่เขาไม่รู้ว่ามันเป็นเพลงอะไร รู้แต่ว่าน่าจะเป็นเพลงซักเพลงของโยฮัน เซบัสเตียน บาค เขาจำวิธีการเล่นฮาโมนี่ของมือซ้ายได้ 
" เลิกได้แล้วล่ะ ป่านนี้แล้วคงหาไม่เจอ " ตาดีพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้ากึ่งเป็นห่วงกึ่งเฉยชา เขามองอ้ายด้วยหางตา
" ข้าจะหาอีกหนึ่งปี หลังจากนั้น ข้าจะกลับไปอยู่เชียงใหม่ "
" แกมีใครรู้จักอยู่เชียงใหม่ "
" ไม่มี "
" แล้วกลับไปทำไม " ถึงจุดนี้อ้ายไม่ตอบแต่หันไปมองแม่ไก่ที่กำลังเดินจิกเศษอาหารบนพื้น เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อเพื่อหยิบเอาถั่วออกมาสามเม็ด โยนลงไปบนพื้น แม่ไก่รีบเดินมาจิกกินอย่างรวดเร็ว อ้ายลุกขึ้นยืน แล้วเดินหายเข้าไปในรถสามล้อบ้านของเขา ตาดีเอาปลายของบุหรี่ฝนลงไปกับพื้นเพื่อให้มันดับ เก็บส่วนที่เหลือเข้ากระเป๋าเสื้อ แล้วเดินตามอ้ายขึ้นรถไป 

  อีกมุมๆนึงของถนน มีเด็กชาย-หญิงคู่นึงกำลังยืนสนทนากัน ชั่ววินาที เด็กผู้ชายเหลือบไปเห็นคนปั่นสามล้อประหลาดที่มีบ้านทำจากลังกระดาษอยู่ด้านหลัง เขากลืนน้ำลายพร้อมกลับมีอาการตัวสั่น หยดน้ำเล็กๆไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างโดยไม่รู้ตัว เด็กผู้หญิงที่อยู่ด้วยกันเหลือบมาเห็นแล้วจึงเอ่ยขึ้นถาม
" เอื่อย เป็นอะไร ? "

No comments:

Post a Comment